มหาสารคาม-ตำรวจ ปกครอง ปฏิบัติการปิดล้อมการจับกุมยึดทรัพย์เป้าหมายเครื่อข่ายยาเสพติด รวบทั้งครอบครัว ยึดวัว ยึดควาย ทรัพย์สินกว่า 18 ล้านบาท

ตำรวจ ปกครอง ปฏิบัติการปิดล้อมการจับกุมยึดทรัพย์เป้าหมายเครื่อข่ายยาเสพติด รวบทั้งครอบครัว ยึดอาชีพค้าขาย(ยาบ้า)ยึดทรัพย์สินรวมมูลค่า 18,357,333 บาท ยึดวัวควาย30ตัว


วันทื่ 28 มิ.ย.67 เมื่อเวลา 11.30 น. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วย พล.ต.ต.พรชัย ชลอเดช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม ดร.นายแพทย์พิทักษ์พงศ์ พายุหะ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม นางคมคาย อุดรพิมพ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผลการกวาดล้างยาเสพติด ตามแผนปฏิบัติการเร่งรัดการดำเนินงานป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติด ระยะเร่งด่วน 3 เดือน ( 1 มิถุนายน – 31 สิงหาคม 2567)
นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลกำหนดวาระแห่งชาติ ประกาศนโยบายแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเร่งด่วนระยะ 3 เดือน กำหนดพื้นที่นำร่อง 25 จังหวัด ซึ่ง 1 ในนั้นคือจังหวัดมหาสารคาม สอดรับตามแผนปฏิบัติการภายใต้ยุทธการมหาสารคามเมืองปลอดภัยยาเสพติด โดยได้ทำการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายเครือข่ายนักค้ายาเสพติด จากผลการปฏิบัติการ ในห้วงที่ผ่านมามีผลการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด รวมของกลางและผลการดำเนินการตรวจยึดอายัดทรัพย์สิน และอื่น ๆ ที่ดำเนินการตรวจยึด อายัดไปแล้ว ดังนี้ เป้าหมายที่เข้าตรวจค้น 132 เป้าหมาย ใช้ชุดปฏิบัติการ 27 ชุด มีคดีทั้งสิ้น 302 คดี ผู้ต้องหา 305 คน ของกลางยาบ้า 74,277 เม็ด ไอซ์ 5.1 กรัม จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 1 หมาย ยึดทรัพย์สินรวมมูลค่า 18,357,333 บาท แยกเป็น รถยนต์ 21 คัน รถจักรยานยนต์ 75 คัน โฉนดที่ดิน 2 แปลง โทรศัพท์มือถือ 102 เครื่อง เงินสด 405,440 บาท อาวุธปืน 13 กระบอก กระสุนปืน 129 นัด วัว 24 ตัว กระบือ 7 ตัว
ด้าน พล.ต.ต.พรชัย ชลอเดช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ชุดปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติดได้เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายในอำเภอพยัคฆภูมิพิสัย หลังจากการมีการออกสืบสวนหาข่าว ประกอบกับชาวบ้านมีความมั่นใจในตัวเจ้าหน้าที่และได้เบาะแสว่ามีครอบครัวหนึ่ง ลักลอบค้ายาเสพติด ประกอบกับข้อมูลของเจ้าหน้าที่ที่มีอยู่ ในการขยายผลการจับกุม ก็พบว่ามีข้อมูลที่ตรงกัน จึงได้เข้าค้นบ้านเครือข่ายค้ายาเสพติดของนายบุญถม หรือนายหมอก ซึ่งเป็นผู้ค้ารายใหญ่ในพื้นที่ ทำการจำหน่ายยาบ้าให้กับบุคคลทั่วไปในราคาเม็ดละ 50 บาท


ซึ่งครอบครัวนี้มีกัน 4 คน ประกอบด้วย นายบุญถม หรือ หมอก อายุ 62 ปี (สามี) นางสมศรี อายุ 59 ปี (ภรรยา) นายชัยพล หรือเล็ก อายุ 24 ปี (ลูกชาย) และ นางสาวศุภนิดา หรือ จอย อายุ 26 ปี (สะใภ้) ทั้งหมดไม่ได้ทำงานอะไร เจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นพบยาบ้าจำนวน 2,658 เม็ด อาวุธปืนออโตเมติกขนาด .038 จำนวน 1 กระบอก แม็กกาซีน 1 อัน อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก กระสุนปืนขนาด .380 จำนวน 82 นัด กระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 17 นัด กระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 2 นัด กระสุนปืนลูกซองเบอร์ 20 จำนวน 23 นัด โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง รถจักรยานยนต์ 5 คัน และได้อายัดทรัพย์สินที่คาดว่าจะได้มาจากการจำหน่ายยาเสพติดไว้ตรวจสอบ ได้แก่ วัว 23 ตัว ควาย 7 ตัว สร้อยคอทองคำ 2 เส้น โฉนดที่ดิน 2 แปลง และรถยนต์ 1 คัน รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดอายัดมีมูลค่า 3,029,490 บาท


โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาให้นายบุญถม และนางสมศรี ว่า ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยกระทำเพื่อการค้าส่วนลูกชายและลูกสะใภ้ คือ นายชัยพล และนางสาวศุภนิดา เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันมียาเสพติให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.พยัคฆภูมิพิสัย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ซึ่งขณะเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม ก็ยังมีลูกค้าเดินเข้ามาในบ้านเพื่อซื้อยาบ้าไปเสพ โดยเจ้าหน้าที่ได้สอบถามและยอมรับมาซื้อยาบ้าจากนายหมอก โดยซื้อเป็นประจำเม็ดละ 50 บาท ก่อนแจ้งข้อหาและดำเนินคดีตามกฎหมาย